Ministry of Health (MOH) Blog สุขภาพ อาการที่ควรเข้ารับการตรวจหาสิ่งผิดปกติของร่างกายด้วยการส่องกล้องทางเดินอาหาร
สุขภาพ ความรู้รอบตัว

อาการที่ควรเข้ารับการตรวจหาสิ่งผิดปกติของร่างกายด้วยการส่องกล้องทางเดินอาหาร

การส่องกล้องทางเดินอาหาร คือ อีกหนึ่งกระบวนการวินิจฉัยและให้การรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร โดยใช้กล้องที่มีสายยาวสอดเข้าไปทางปากหรือทวารหนัก ซึ่งการตรวจเช็กระบบทางเดินอาหารนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโรคบางโรคก็ไม่สามารถมองเห็นความผิดปกติได้ไม่ชัดเจนและไม่แสดงอาการออกมา จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจภายในร่างกายเพื่อให้เห็นร่องรอยของโรคได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งถ้าตรวจเจอเร็ว และรักษาได้เร็ว ก็จะทำให้มีโอกาสหายขาดสูงมากขึ้นได้ค่ะ

อาการที่ควรต้องเข้ารับการตรวจส่องกล้องทางเดินอาหาร

การส่องกล้องทางเดินอาหารอาจจำเป็นสำหรับอาการที่ส่งสัญญาณถึงปัญหาในทางเดินอาหารส่วนบน ต่อไปนี้คืออาการที่อาจบ่งบอกถึงความจำเป็นในการส่องกล้อง

  1. กลืนอาหารลำบาก หรือกลืนแล้วเจ็บ อาจเป็นสัญญาณของการอุดตัน หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดอาหาร
  2. อาการปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีอาการปวดท้องแบบมีลักษณะเฉพาะที่หรือไม่ได้บรรเทาลงด้วยการใช้ยาปกติ
  3. การอาเจียน หรืออาเจียนเป็นเลือด อาการอาเจียนต่อเนื่องหรือมีเลือดปนออกมา ซึ่งอาจบ่งบอกถึงแผลในกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร
  4. การเสียเลือดทางเดินอาหาร ประกอบด้วยอุจจาระดำหรือมีเลือดปน ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการตกเลือดภายในกระเพาะอาหารหรือลำไส้
  5. น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ การสูญเสียน้ำหนักที่ไม่ได้ตั้งใจหรือรวดเร็วอาจเป็นสัญญาณของการมีปัญหาที่รุนแรงในทางเดินอาหาร
  6. ความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการตรวจร่างกายหรือการทดสอบเบื้องต้น เช่น พบภาวะโลหิตจางที่ไม่สามารถอธิบายได้ หรือมีผลการตรวจอัลตราซาวนด์ หรือเอ็กซเรย์ที่แสดงถึงความผิดปกติ
  7. อาการกรดไหลย้อน หรือการรู้สึกแสบร้อนในอก หากมีอาการกรดไหลย้อนต่อเนื่องหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา อาจต้องใช้การส่องกล้องเพื่อตรวจหาสาเหตุหรือตรวจหาการอักเสบหรือการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในหลอดอาหาร
  8. การตรวจหาการติดเชื้อ Helicobacter pylori ในกรณีที่ต้องการยืนยันการติดเชื้อที่อาจนำไปสู่แผลในกระเพาะอาหาร

แพทย์จะพิจารณาอาการและประวัติสุขภาพของคุณเพื่อตัดสินใจว่าการส่องกล้องทางเดินอาหารเป็นการตรวจที่เหมาะสมหรือไม่ และการตรวจนี้จะช่วยให้ได้ข้อมูลมากขึ้นเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและการรักษาที่เหมาะสม

การส่องกล้องระบบทางเดินอาหารแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

ส่องกล้องทางเดินอาหาร ส่วนบน

การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบนจะเป็นการตรวจหลอดอาหารกระเพาะอาหารลำไส้เล็กส่วนต้น จะทำเมื่อมีอาการจุกคอ กลืนติด กลืนลำบาก มีอาการแสบหน้าอก เรอเปรี้ยว หรือมีอาการของกรดไหลย้อนซึ่งมีการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น มีอาการปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ รับประทานอาหารแล้วท้องอืด รับประทานอาหารแล้วอิ่มง่ายรับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น และมีอาการเสี่ยงเกิดมะเร็ง คือ  ถ่ายดำ อาเจียนเป็นเลือด อาเจียนตลอดเวลา น้ำหนักตัวลด เบื่ออาหาร รับประทานอาหารแล้วอิ่มง่ายมากกว่า  50 %  รวมถึงเป็นการเข้าไปส่องดูสาเหตุที่ชัดเจนว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหารซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร  มีติ่งเนื้อ เนื้องอก มะเร็ง หรือไม่

ส่องกล้องทางเดินอาหาร ส่วนล่าง

ในการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนล่างหรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เป็นตรวจลำไส้ใหญ่ทั้งหมดและลำไส้เล็กส่วนปลาย โดยตรวจดูว่ามีแผลอักเสบหรือไม่ มีติดเชื้อ มีติ่งเนื้อหรือไม่ โดยอาการที่ต้องส่องกล้องลำไส้ใหญ่คือ ถ่ายเป็นมูกเป็นเลือด มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย ปวดท้องเรื้อรัง ขับถ่ายไม่สุดต้องใช้เวลาเบ่งนาน น้ำหนักตัวลด มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ ประวัติเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง อายุเกิน 50 ปีถึงแม้ไม่มีอาการแนะนำให้ส่องกล้องตรวจดูมะเร็งลำไส้ใหญ่

การเตรียมตัวก่อนส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร

  1. งดอาหารและเครื่องดื่ม จำเป็นต้องงดอาหารและเครื่องดื่มเป็นเวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงก่อนการตรวจ เพื่อให้กระเพาะอาหารว่างเปล่า ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถสังเกตการณ์ภายในทางเดินอาหารได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สามารถดื่มน้ำได้แต่ต้องดื่มน้อยๆ ตามที่แพทย์ได้แนะนำ
  2. การปรับเปลี่ยนการใช้ยา หากคุณกำลังใช้ยาประจำ เช่น ยากันเลือด ยาลดความดันโลหิต หรือยาเสพติดอื่น ๆ คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการใช้ยาก่อนการส่องกล้อง เนื่องจากบางยาอาจต้องหยุดหรือปรับขนาดก่อนการตรวจ
  3. การเตรียมสุขภาพจิต คุณอาจรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการส่องกล้อง มีการให้ยาชาท้องถิ่นหรือยาทำให้ผ่อนคลายเพื่อช่วยให้คุณสบายใจและลดอาการไม่สบายในระหว่างการตรวจ
  4. เตรียมคนไปด้วย คุณควรมีคนไปส่งและไปรับที่โรงพยาบาล เนื่องจากการให้ยาสลบหรือยาทำให้ผ่อนคลายอาจทำให้คุณไม่พร้อมที่จะขับรถหลังการตรวจ
  5. เอกสารและประวัติการแพทย์ นำเอกสารทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลตรวจล่าสุด หรือประวัติการแพ้ยา ไปให้แพทย์หรือพยาบาลทราบก่อนการตรวจ

การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยให้แพทย์สามารถทำการตรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่างและหลังการส่องกล้องได้

กล่าวโดยสรุป

การส่องกล้องทางเดินอาหารจะใช้ระยะเวลาไม่นาน โดยการส่องกล้องส่วนบนใช้ระยะเวลาประมาณ 5-15 นาที และการส่องกล้องส่วนล่างใช้ระยะเวลาประมาณ 15-20 นาที การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้นการเตรียมตัวคืองดน้ำอดอาหาร 8  ชั่วโมงก่อนการส่องกล้องส่วนการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ต้องทานยาระบายที่แพทย์จัดให้ การส่องกล้องใช้วิธีการฉีดยาให้หลับโดยยาออกฤทธิ์ไวผลข้างเคียงน้อยมีวิสัญญีแพทย์ดูแลระหว่างการส่องกล้อง ในกรณีที่มีตรวจแล้วพบติ่งเนื้อ เนื้องอก แพทย์ก็สามารถตัดออกได้ในขณะที่ส่องกล้องในขณะคนไข้ยังหลับอยู่และไม่รู้สึกเจ็บขณะตัดติ่งเนื้อ หลังจากส่องกล้องเสร็จนอนสังเกตอาการหากไม่มีปัญหาก็สามารถกลับบ้านได้ภายในวันนั้นเลยค่ะ

Exit mobile version